หน้าแรก ข่าวสารพลังงาน ‘อิ๊งค์’ลั่นรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600MWโปร่งใส กกพ.ชี้หากยกเลิกประมูลโครงการRE เสียหาย-ถูกฟ้อง

‘อิ๊งค์’ลั่นรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600MWโปร่งใส กกพ.ชี้หากยกเลิกประมูลโครงการRE เสียหาย-ถูกฟ้อง

‘อิ๊งค์’ลั่นรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600MWโปร่งใส กกพ.ชี้หากยกเลิกประมูลโครงการRE เสียหาย-ถูกฟ้อง

      “แพทองธาร”โต้ “ธนาธร”ยันโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) 3,600 เมกะวัตต์ ต้องทำแบบโปร่งใส ไม่เอื้อกลุ่มทุนพลังงาน ด้านศรีสุวรรณจ่อยื่นศาลปกครองวันที่ 30ต.ค.เพื่อให้กกพ.ระงับการเปิดประมูลซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ เอื้อนายทุนและดันค่าไฟฟ้าสูงขึ้น “กกพ.”ระบุหากยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้า RE จะสร้างความเสียหายและเกิดการฟ้องร้องตามมา
ชี้การเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียว เพื่อป้อนนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการใช้ไฟฟ้าRE

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ส่งหนังสือเปิดผนึกเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 (เพิ่มเติม) 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งอาจเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนพลังงานว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ที่ตนเป็นประธาน แต่ได้สอบถามและพูดคุยกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ที่กำกับดูแลแล้ว พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องทำอย่างโปร่งใส ไม่มีการเอื้อประโยชน์นายทุน พร้อมยินดีให้ตรวจสอบ เพราะนั่นคือความมั่นคงของรัฐบาลด้วย

“จริงๆ ก่อนที่นายธนาธรจะออกมาพูด ได้มีการตอบคำถามเรื่องนี้ในสภาแล้วจากการตั้งกระทู้ถาม คิดว่าประชาชนหาข้อมูลตรงนั้นได้อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีกระบวนการของมันอยู่แล้ว”
นายกฯกล่าว ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ทางสมาคมฯจะยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อให้ระงับและยกเลิกการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนพลังงานในโครงการยื่นเสนอขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ.2567 รวม 2,180 เมกะวัตต์(MW) โดยรับซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมไม่เกิน 600 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีกไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกประกาศไว้

ซึ่งการออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าว ไม่ได้คำนึงถึงพลังงานไฟฟ้าของประเทศที่มีล้นระบบอยู่มากถึง 50,625 MW โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ GDP มีไม่เกิน 3% เท่านั้น อีก 20 ปีข้างหน้าไทยก็ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 5 หมื่นเมกะวัตต์หากเศรษฐกิจไทยยังโตได้เพียงเท่านี้ การออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนเป็นเรื่องที่รัฐบาลร่วมกับนายทุนพลังงาน ในการหาเหตุผลใหม่ๆ เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมาขายไฟให้รัฐเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ กฟผ. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐ มีศักยภาพในการผลิตพลังงานหมุนเวียนได้ แต่ก็ถูกกีดกันออกไปจนไม่สามารถเข้ามาผลิตแทนในราคาถูกได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรับซื้อไฟฟ้าที่แพงจากเอกชนถูกนำมารวมเป็นค่าใช้จ่ายในค่าเอฟที ทุกบิลเก็บค่าไฟฟ้าทั่วประเทศนั่นเอง ดังนั้น ชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากค่าไฟฟ้าแพง จึงมาร้องสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนให้ช่วยฟ้องศาลปกครอง
เพื่อระงับและยกเลิกการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนพลังงาน

ด้านแหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นว่า ที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาหารือกับรัฐบาลไทย เพื่อเตรียมแผนลงทุนในประเทศไทย เพราะมองว่าไทยมีแผนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอย่างชัดเจน ตอบโจทย์ความต้องการไฟฟ้าสีเขียวของนักลงทุนต่างชาติได้ ซึ่งขณะนี้สัดส่วนพลังงานทดแทนยังน้อย รวมทั้งจะเน้นจัดทำอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff : UGT) เพื่อป้อนนักลงทุนเป็นหลัก

ดังนั้นหากต้องกลับมารื้อใหม่ทั้งพลังงานหมุนเวียน(RE)รอบแรกที่ ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ไปแล้ว ย่อมเกิดความเสียหาย ทั้งต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า และนักลงทุน เห็นได้จากโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานลม ที่เลื่อนลงนามมา 2 ปี ได้สร้างความเสียหาย และคาดว่าย่อมเกิดการฟ้องร้องตามมา

ที่ผ่านมา กกพ. ดำเนินการตามมติ กพช. ที่ต้องการเปิดให้มีการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเข้าระบบ เพื่อรองรับนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ทั้งดาต้า เซ็นเตอร์ และคลาวด์ หากรัฐบาล หรือกระทรวงพลังงาน มองว่าจำเป็นต้องรื้อหลักเกณฑ์ ก็ต้องปรับแก้ตั้งแต่มติ กพช.

ซึ่งค่าไฟฟ้าที่แพง สาเหตุไม่ได้เกิดจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพราะการประมูลไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รอบแรกที่ 5,000 เมกะวัตต์ ในส่วนของพังงานแสงอาทิตย์เฉลี่ย 2.10 บาทต่อหน่วย พลังงานลมเฉลี่ย 3 บาทต่อหน่วย ขณะเดียวกันการเปิด RE ทั้งรอบแรก 5,000 เมกะวัตต์ และ RE รอบสอง 3,600 เมกะวัตต์ เป็นไปตามมติ กพช. ที่เตรียมสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่มีแผนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียว

แชร์โพสต์ :

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top