ทางแยก 'แผนพลังงานชาติ 2023-37’ ตอบโจทย์เปลี่ยนผ่านและความมั่นคง
ทิศทางของนโยบายพลังงานในปี 2567 ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น กระทรวงพลังงานจึงต้องปรับบทบาทเพื่อก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ที่นอกจากจะต้องสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว ยังต้องเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและการดำเนินการ หลายด้านเพื่อขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและ แผนพลังงาน (สนพ.) อยู่ระหว่างจัดทำ กรอบแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ปี 2023-2037 ซึ่งรวมทั้ง 5 แผนพลังงานไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย 1.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) 2.แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) 3.แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP)4.แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) และ 5. แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan)
ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คาดว่าภายในเดือน ม.ค. 2567 หรือต้นปีหน้าจะมีการนำแสนอแผน PDP ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนภายหลังหารือร่วมกับ สนพ. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นสาธารณะตามขั้นตอนได้
อย่างไรก็ตาม หากประชาพิจารณ์ฯ เรียบร้อยแล้วก็จะสามารถนำเสนอแผน PDP ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เห็นชอบก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ตามขั้นตอนต่อไป