ปตท.ลั่นบูรณาการNet Zero รัฐตั้งเป้าพลังงานสะอาด50%
นายกฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดเป็น50% ด้านพิชัย เปิด 3 เงื่อนไขดึงต่างชาติลงทุนไทย ผลักดันประเทศสู่เศรษฐกิจสีเขียว “ที่ดิน-พลังงานไฟฟ้าสีเขียว-ทักษะแรงงาน“ ด้านซีอีโอ ปตท.
เดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมาย NET ZERO ปี2050 ลุยโครงการCCS-ไฮโดรเจน พร้อมเร่งบูรณาการในกลุ่มปตท. สู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำและความยั่งยืน
น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายในงานสัมมนา2025กับความท้าทายของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ว่า ปัจจุบันการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญนักธุรกิจ และผู้นําจากทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นในเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ประเทศไทยตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ net zero ในปี 2025 ไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยีหรือนโยบายแต่เป็นความท้าทายที่ประเทศไทยและนานาประเทศทั่วโลกต้องพร้อมปรับตัว
ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายทางเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ทั้งการลดก๊าซเรือนกระจก การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนและการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรามีแผนที่จะครอบคลุมทุกภาคส่วน ตั้งแต่การใช้พลังงานหมุนเวียนในระดับท้องถิ่น ไปจนถึงการสร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง
ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้คนที่ใช้รถที่มีมลพิษน้อยลงเช่น ไฮบริดและอีวีมากยิ่งขึ้นการสนับสนุนให้ใช้วิธีการปลูกพืชใหม่ใหม่ที่ลดการปล่อยคาร์บอนลงการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอนเครดิตเพื่อให้บริษัทไทยสามารถเข้าถึง carbon credit ได้ให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ดีขึ้นโดยเฉพาะในตลาดยุโรปการออกกฎหมายเรื่องการคิดภาษีคาร์บอนการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสีเขียวเป็น 50%
การปรับปรุงมาตรฐานคาร์บอนเครดิตเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลกมากยิ่งขึ้นนโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่ตอบสนอง ต่อความท้าทายภายในประเทศแต่ยังเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
ที่มีความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม “เรามีความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ในการผลักดันให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนร่วมกัน”น.ส. แพทองธารกล่าว
ความสําเร็จของเป้าหมายนี้ จําเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐภาคธุรกิจและประชาชนดิฉันเชื่อมั่นว่าหากทุกคนมีส่วนร่วมในเป้าหมาย netzero ประเทศไทยจะสามารถเป็นตัวอย่างที่สําคัญของประเทศที่สร้างความเจริญก้าวหน้า โดยไม่ละเลยความรับผิดชอบต่อโลก และอนาคตของลูกหลาน
*ปตท.สั่งบูรณาการลดคาร์บอน*
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวภายในงานสัมมนา iBusiness Forum “2025 Net Zero กับความท้าทายของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ Net Zero and the Challenges of The New Global Economy” ว่า วันนี้เรามุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ปีค.ศ.2050 โดยทิศทางของโลกทั้ง Climate Change การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้พลังงานสะอาดขึ้น Digital Transformation ของอุตสาหกรรมต่างๆล้วนมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจและการใช้พลังงานเป็นอย่างมาก
เนื่องจากพลังงานเป็นพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และเป็นปัจจัยที่ทำให้โลกเกิดความวุ่นวายไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Geopolitic ซึ่งต้องการความต้องการความมั่นคงด้านพลังงาน 75% คู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“วันนี้คงไม่ต้องมีคำถามว่าทำไมต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่เป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพื่อช่วยโลก รวมถึงช่วยตัวเองเพื่อให้มนุษยชาติอยู่ได้”
*บูรณาการความยั่งยืนสร้างสมดุลESG*
ดร.คงกระพัน กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์”ปตท.แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” ในฐานะที่ปตท.เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ เมื่อปตท.แข็งแรง ประเทศชาติก็แข็งแรงด้วย ดังนั้นปตท.จึงเน้นการโตในต่างประเทศสะท้อนให้เห็นว่า สัดส่วนรายได้ของลปตท.มากกว่า 50%มาจากต่างประเทศ
การบูรณาการ Sustainability เข้าสู่การทำธุรกิจและสร้างสมดุลESGให้เหมาะสมกับการทำธุรกิจ ผ่าน C3 approach คือ 1.Climate resilience Business 2.Carbon conscious asset และ 3 Coalition,co-creation and collection efforts for all
**ปตท.หันผลิตพลังงานลดคาร์บอนควบปลูกป่ามุ่งnet zero *
ซึ่งการทำธุรกิจคาร์บอนต่ำของกลุ่ม ปตท. สามารถดำเนินการได้ เช่น การผลิตไฟฟ้าของ GPSC เชื้อเพลิงที่นำมาใช้จะเริ่มเป็นคาร์บอนต่ำ มีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน และไฮโดรเจนเข้ามามากขึ้น ส่วนธุรกิจในเครือปตท.ที่ปล่อยคาร์บอนก็ให้มีการจัดเก็บ โดยปตท.จะสร้างถังเก็บคาร์บอนบนฝั่งก่อนต่อท่อนำไปฝังเก็บในอ่าวไทยต่อไป 2ข้อรวมกัน กลุ่มปตท.ก็ลดคาร์บอนได้50% ส่วนที่เหลือเป็นการทำโครงการCCS การปลูกป่า นับเป็นการ Integrate ในกลุ่มปตท. ทั้งการลดคาร์บอน ความยั่งยืน และการทำธุรกิจให้ไปด้วยกัน โดยมองว่าการลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zreo ไม่ใช่ต้นทุน(Cost)แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจ
คลังตั้งเป้าลดคาร์บอน30% จ่อใช้กม.บังคับ*
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษงานสัมมนา “2025 Net Zero กับความท้าทายของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ Net Zero and the Challenges of The New Global Economy” ว่า ประเทศไทยเริ่มจากกระทรวงทรัพย์พยากรณ์และสิ่งแวดล้อม ได้เข้ามาหารือกับท่านอธิบดี คุยถึงผลกระทบโลกร้อน สิ่งเหล่านี้จะต้องทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้ถูกกฏหมาย ทุกภาคส่วนของร่วมมือกันน และตระหนักถึงคำว่า (ZERO) เกี่ยวข้องอะไรกับเรา บ้างที่ได้ทำสนธิสัญญากันแล้ว ต้องทำให้ชัดว่า ต้องปล่อยเท่าไร ลดลงได้เท่าไร ในประเทศไทยและประเทศในเอเชีย ที่ตกลงกันไว้แล้ว เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว จะทำอย่างไร ระดับการปล่อยคาร์บอนให้เข้าใกล้เป้าหมายมากที่สุด หรือถ้าทำไม่ได้จะทำอย่างไร …..