
นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ระบุแนวทางการปรับลดค่าไฟหน่วยละ 17 สตางค์ (สต.) ตามข้อเสนอของสำนักงานกกพ. ที่เสนอให้ทบทวนเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) และขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) และมาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (เอฟไอที) จากผู้ผลิตไฟฟ้าว่า ไม่สามารถทำได้เพราะสัญญาได้จัดทำไปแล้ว หากยกเลิกกกพ.ก็จะถูกฟ้อง จากภาคเอกชน
“กรณีที่เปรียบเทียบว่า สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาชั่วนิรันดร์ หากยกเลิกจะถูกเอกชนฟ้องร้องนั้น ผมพูดในนามส่วนตัวยืนยันว่า กกพ.สามารถทำให้ลดค่าไฟฟ้าลดลงหน่วยละ17สต.ได้ โดยให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ออกมติทบทวนการต่ออายุโครงการที่ต่ออายุสัญญาทุกๆ 5 ปี ให้คำนวณอัตราสะท้อนข้อเท็จจริง โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นหน่วยงานกลางในการคำนวณ ซึ่งรัฐสามารถทำได้ตามกฎหมายปกครอง ที่ให้คุ้มครองผลประโยชน์ของมหาชน มีสิทธิเหนือกว่าสัญญา”
ดังนั้น จึงเห็นควรต้องทบทวนที่ต้องต่ออายุสัญญาทุกๆ 5 ปี และหากกพช. กำหนดนโยบายปรับค่าไฟฟ้ารับซื้อในส่วนนี้ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ทันทีหน่วยละ 17 สต. เช่น หากค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4.15 บาท จะเหลือหน่วยละ 3.89 บาท จากประมาณการตลอดทั้งปีนี้ ประชาชนจะประหยัดค่าไฟฟ้า 33,150 ล้านบาท