น้ำมันพุ่งแรงจากความตึงเครียด ตอ.กลาง ทองบวก-หุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน
ราคาน้ำมันขยับขึ้นมากกว่า 3% ในวันจันทร์ (12 ส.ค.) จากความกังวลความขัดแย้งตะวันออกกลางลุกลาม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออปทานพลังงาน ปัจจัยนี้ดันทองคำพุ่งแรง ขณะที่วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่าจะส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีลำหนึ่งเข้าไปยังตะวันออกกลาง ในขณะที่ภูมิภาคแห่งนี้เตรียมตัวรับมือกับความเป็นไปได้ที่อิหร่านและพันธมิตรจะลงมือโจมตีแก้แค้นอิสราเอล
อิหร่านและฮิซบอลเลาะห์ ประกาศแก้แค้นให้กับเหตุลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส และฟูอัด ชูคร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ ที่พวกเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล การโจมตีแก้แค้นใดๆอาจทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปทั่งตะวันออกกลาง ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบและเป็นปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันจันทร์ (12 ส.ค.) ปิดบวกแรง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 30.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,493.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันจันทร์ (12 ส.ค.) นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ของอเมริกาที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดสำหรับแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดาวโจนส์ ลดลง 140.53 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,357.01 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.23 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,344.39 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 35.31 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,780.61 จุด
นักลงทุนกำลังรอดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (14 ส.ค.) เช่นเดียวกับข้อมูลค้าปลีก เพื่อประเมินอุปสงค์ของผู้ซื้อ
คาดหมายว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะเผยให้เห็นว่าเงินเฟ้อทั่วไปร้อนแรงขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม จากระดับเดือนมิถุนายน แต่ยังคงอยู่ที่ระดับ 3% เท่าเดิม เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงาน FedWatch Tool ของ CME ระบุว่าตลาดการเงินคาดหมายพอๆ กันว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% หรือไม่ก็ 0.50% ในเดือนกันยายน และคาดหมายว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเต็ม 1.0% ภายในปี 2024