
การผลักดันนโยบายก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทยถูกพูดถึงต่อเนื่องในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักในการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ซึ่งในปี 2520 เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเห็นชอบงบลงทุนประจำปีให้ กฟผ.ดำเนินการการสำรวจและเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานปรมาณูวงเงิน 11.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2520
หลังจากนั้นมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายครั้ง จนกระทั่งมีการจัดตั้งกระทรวงพลังงานขึ้นมาก็ได้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยทุกครั้งที่เกิดวิกฤติพลังงานขึ้นมาจะทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถูกพูด ซึ่งรัฐบาลในอดีตเคยถึงขั้นให้สำนักงานสถิติแห่งชาติทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทนปี 2550 มีผู้เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แทนโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง 41.3% แต่คงนำมาใช้อ้างอิงอะไรในปัจจุบันไม่ได้
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้งเมื่อมีการบรรจุไว้ในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2567-2580 (PDP2024) โดยบรรจุหน่วยการผลิตไฟฟ้ารวม 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ ในปี 2580 เป็นการกำหนดไว้ในปีสุดท้ายของแผน PDP2024 เพราะเป็นถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ถูกหารือในสังคมมานาน แต่ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มที่เห็นด้วยกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยในปัจจุบัน
เทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบโมดูลขนาดเล็ก (SMR) ถูกกำหนดให้เป็นทางเลือกพลังงานสะอาดสำคัญที่มีศักยภาพในระยะยาว โดยกระทรวงพลังงานระบุถึงการเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง โดยมีการออกแบบและการผลิตให้สามารถควบคุมการเกิดอุบัติเหตุได้มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ทดแทนโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคตเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งสามารถเพิ่มจำนวนโมดูลเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ นอกเหนือความพร้อมของเทคโนโลยี เงินลงทุนและความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนตามแผน PDP2024 สิ่งสำคัญอีกด้าน คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะนำไปสู่การกำกับดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทยอยออกกฎหมายเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่รัฐบาลในการควบคุมดูแลหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก โดยต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดหากตัดสินใจที่จะตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประเภทดังกล่าว
นอกเหนือความพร้อมของเทคโนโลยี เงินลงทุนและความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนตามแผน PDP2024 สิ่งสำคัญอีกด้าน คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะนำไปสู่การกำกับดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทยอยออกกฎหมายเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่รัฐบาลในการควบคุมดูแลหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก โดยต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดหากตัดสินใจที่จะตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประเภทดังกล่าว