นายกฯ นั่งหัวโต๊ะสั่งพลังงานดูแลราคาน้ำมัน พร้อมดึงคลังพิจารณาลดภาษี พยุงราคาไม่เกิน 33 บาท/ลิตร

      วันที่ 18 มิ.ย.2568 นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่านายกรัฐมนตรี กำชับให้ดูแลราคาพลังงานที่สูงขึ้นเนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ที่กดดันราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวน ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ

     โดยกระทรวงพลังงานได้รายงานในที่ประชุมว่า มีการสต๊อกปริมาณน้ำมันสำรองรองรับการใช้งานในประเทศเพียงพอ 60 วันตามกฎหมายกำหนด แบ่งเป็นน้ำมันดิบ 3,337 ล้านลิตร ใช้ได้ 25 วัน น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง 2,457 ล้านลิตร ใช้ได้ 19 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 1,874 ล้านลิตร ใช้ได้ 16 วัน ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าสถานการณ์สู้รบอาจทวีความรุนแรงแต่ไม่ยืดเยื้อหากจำเป็นก็มีความเป็นไปได้ที่ต้องพิจารณาปรับเพิ่มสต๊อกน้ำมันเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการสำรองมากกว่าที่กฎหมายกำหนด นอกเหนือจากปัจจุบันได้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการพยุงราคาล่าสุดสถานะของกองทุน ณ วันที่ 15 มิ.ย.2568 กองทุนติดลบ 36,268 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 8,244 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าซหุงต้มติดลบ 44,512 ล้านบาท ซึ่งน่าจะอุดหนุนราคาน้ำมันได้อีกไม่เกิน 5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

   “หากราคาน้ำมันปรับขึ้นอีก 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อาจต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อใช้มาตรการภาษีเข้ามาช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันในประเภทเพิ่มเติม” นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเราพยายามตรึงราคาน้ำมันขายปลีกหน้าปั๊มไม่ให้เกิน 32 บาท/ลิตร แต่หากสุดท้ายสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านรุนแรงขึ้น ก็อาจมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาบางส่วน แต่ก็จะไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร

     นอกจากนี้ จากสถานการณ์สู้รบยังส่งผลกระทบต่อราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ปรับขึ้นเป็น 13 เหรียญสหรัฐ จาก 11 เหรียญสหรัฐ ประกอบกับต่างประเทศเริ่มเตรียมพร้อมสำรองแอลเอ็นจี รองรับฤดูหนาวที่ใกล้จะมาถึงดังนั้น ทางกระทรวงพลังงาน จะหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณา 4-5 แนวทางในการดูแลค่าไฟที่ให้อยู่ในอัตรา 3.99 บาท/หน่วย ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเสนอให้ รมว.พลังงาน พิจารณาต่อไปภายในสัปดาห์หน้า