หน้าแรก ข่าวสารพลังงาน “น้ำมัน” เตรียมรับมือทรัมป์ป่วน

“น้ำมัน” เตรียมรับมือทรัมป์ป่วน

   เพียงแค่ 1 เดือนกว่าๆ “มิสเตอร์พี” ได้เขียนถึงแนวโน้มผลกระทบจากนโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อไทยมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะการก่อ “สงครามการค้ารอบ 2” รวมทั้งผลจากนโยบายแข็งกร้าวของทรัมป์ ที่ก่อให้เกิดความผันผวนของค่าเงิน ราคาสินทรัพย์ ราคาพันธบัตร และส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นลดลงแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดน้ำมันดิบโลกในช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนว่ายังได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดอื่น แต่คนในแวดวงพลังงานเองยังไม่เคยวางใจ เพราะมองว่า “ความไม่แน่นอนของนโยบาย” ของนายทรัมป์ จะสร้างแรงกระเพื่อมรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ “ตลาดพลังงานโลกยังคงเผชิญความไม่แน่นอน ราคาน้ำมันโลกแกว่งตัวท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่ซับซ้อน”

   ทั้งนี้ นโยบายทรัมป์ 2.0 ที่ว่าด้วย “ภาวะฉุกเฉินพลังงานแห่งชาติ” ได้ประกาศเร่งเครื่องผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศ พร้อมเดินหน้าส่งออกเต็มกำลัง ทำให้มีการเพิ่มกำลังขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ และมีตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันทรัมป์ได้สั่งให้ใช้มาตรการกดดันอิหร่านเพิ่มขึ้น รวมถึงการคว่ำบาตรที่เข้มข้นขึ้น หลังอิหร่านผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การตั้งกำแพงภาษีต่อประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้า อาจจะนำมาโดยการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีน้ำมันต่อสหรัฐฯคืน อย่างที่จีนได้ประกาศออกมาแล้ว และล่าสุด ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ซึ่งหลายคนคาดว่าจะบรรเทาเบาบางลง การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา กลับเต็มไปด้วยการโต้เถียง และล่มไม่เป็นท่าภายในเวลารวดเร็ว ท่ามกลางการออกมาสนับสนุนยูเครนของผู้นำประเทศทั่วโลก หลังจากการเจรจาดังกล่าว ซึ่งท่าทีของนายทรัมป์ ทั้งกรณีนี้และกรณีอิหร่านอาจจะไม่เป็นผลดีต่อ “สงครามในโลกจริง” ที่ดำเนินอยู่

   อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปี 68 จะอยู่ที่ 71–81 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยหากอยู่ในระดับนี้จริง จะกระทบต่อมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมัน ซึ่งภาครัฐยังคงบริหารจัดการราคาน้ำมันผ่าน “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ต่อเนื่องไม่มากนัก แต่ก็ต้องระวังและเตรียมการไว้ให้ดี เพราะแม้ว่าปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเริ่มดีขึ้นจากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯจากน้ำมันเบนซินและดีเซล ควบคู่กับการรักษาระดับราคาขายปลีกไม่ให้กระทบต่อประชาชน แต่ฐานะล่าสุด ณ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา กองทุนฯยังติดลบ 68,191 ล้านบาท และยังมีหนี้เงินกู้ค้างอยู่ 103,338 ล้านบาท

    การสร้างสมดุลให้ราคาน้ำมันภายในประเทศไม่สร้างภาระค่าครองชีพให้กับคนไทยมากเกินไป ควบคู่กับการลดภาระหนี้ของกองทุนฯ จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมไว้ เพราะภายใต้ความไม่แน่นอนของโลกในยุคทรัมป์ 2.0 “ทรัมป์เองก็ไม่ได้ชอบ “ราคาน้ำมันดิบ” ที่ต่ำเกินไป และอาจจะมีการสร้างปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆเข้ามากระทบให้ “ราคาน้ำมันดิบ”โลกปรับขึ้นได้อย่างไม่ทันตั้งตัว”.

Section Title

กลุ่มปตท. เชิญชวนเยาวชน อบรมหลักสูตรด้านวิทยาการพลังงาน

พลังงานมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกิจข...
แชร์โพสต์ :

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top